“ถึงเวลาของ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ (Ranger Raptor) ที่มายกระดับคำนิยามของกระบะเกิดมาแกร่งขึ้นไปอีกขั้น เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้รับการพัฒนาให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งยังอัดแน่นไปด้วยดีเอ็นเอ Ford Performance จนกลายเป็นรถเรนเจอร์ สมรรถนะสูง” คุณยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ดอาเซียน และกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ กระบะออฟโรดสมรรถนะความเร็วสูง รุ่นแรกและรุ่นเดียวของภูมิภาคเอเชียที่ส่งตรงจากโรงงานผลิตฟอร์ด มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบเทอร์โบว์คู่ (Bi-Turbo) ขนาด 2.0 ลิตร ที่ทำงานร่วมกันกับเกียร์อัติโนมัติ 10 สปีด และมอบพละกำลังสูงถึง 213 แรงม้า ที่มีแรงบิดมากถึง 500 นิวตัน-เมตร ในส่วนของแชสชีส์และระบบช่วงล่าง ประกอบด้วยโช๊คอัพที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษโดย Fox Racing Shox ทั้ง 4 ล้อ และยังมีระบบ Watt’s Link และคอยล์โอเวอร์ช็อคแบบใหม่ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวและการควบคุมรถ และทนต่อแรงกระแทกเมื่อขับขี่ออฟโรดที่ความเร็วสูง พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยของระบบ Terrain Management System พร้อมโหมดบาฮา (Baja) ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลายมากถึง 6 โหมดด้วยกัน
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีสีภายนอกให้เลือก 5 สีด้วยกัน ได้แก่
• สีแดง (Race Red)
• สีดำ (Shadow Black)
• สีขาว (Frozen White)
• สีเทา (conquer grey)
• สีน้ำเงิน (Ligtning Blue)
ทั้งนี้ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ถูกออกแบบเพื่อขับขี่ในสภาพแวดล้อมสุดโหดทุกรูปแบบ และยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่าของรถกระบะออฟโรด ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ท่ามกลางทะเลทราย ปีนป่ายภูเขา หรือขับขี่ในทางเรียบ และมาพร้อมตัวถังขนาดใหญ่ขึ้น โดยรถมีความกว้างอยู่ที่ 2.1 เมตร ภายนอกถูกออกแบบให้ดุดันเป็นเอกลักษณ์ ชุดกันชนด้านหน้าซึ่งติดกับเฟรมรถ ออกแบบมาเพื่อรองรับการกระแทกจากการขับขี่ออฟโรดอีกด้วย